 ภาพเหมือนของศีว์เปยหงที่ท่านวาดเอง
กันยายน ค.ศ.1953 ศีว์เปยหง (徐悲鸿) จิตรกรเอกและนักการศึกษาด้านวิจิตรศิลป์ ของจีน ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งอธิการบดีของสถาบันวิจิตรศิลป์แห่งชาติและนายกสมาคม จิตรกรแห่งประเทศจีนได้ถึงแก่กรรมลง ขณะที่มีอายุเพียง 58 ปี (ค.ศ.1895-1953) หลังจากที่ศีว์เปยหงถึงแก่กรรมได้ไม่นาน บ้านเลขที่ 16 ถนนโซ่วลู่ เขตตงตัน นครปักกิ่งซึ่งเป็นบ้านที่ศีว์เปยหงได้อาศัยอยู่เป็นเวลาถึง 7 ปี ได้ถูกทางการกำหนดให้ เป็นอนุสรณ์สถานศีว์เปยหง ( 徐悲鸿纪念馆 ) ท่านนายกรัฐมนตรีโจวเอินไหลได้เขียน ป้ายชื่อ‘‘บ้านศีว์-เปยหง’’ ให้แก่อนุสรณ์สถานแห่งนี้
 อนุสรณ์สถานศีว์เปยหง ตั้งอยู่ที่ถนนเป่ยต้าเจ เขตซินเจโข่ว นครปักกิ่ง
ในปีค.ศ.1967 บริเวณอนุสรณ์สถานศีว์เปยหงเป็นเขตที่ทางรถไฟใต้ดินจะต้องตัด ผ่านจึงได้มีการรื้ออนุสรณ์สถานแห่งนี้แล้วสร้างขึ้นใหม่ในเขตซินเจโข่ว อาคารของอนุสรณ์ สถานแห่งใหม่เป็นตึกทันสมัยสีเทาอมเขียว ตั้งอยู่บนเนื้อที่ทั้งหมด 2,700 ตารางเมตร ที่ลานด้านหน้าอาคารมีรูปแกะสลักหินอ่อนของศีว์เปยหงตั้งอยู่ เมื่อครั้งที่ศีว์เปยหงยังมีชีวิตอยู่ ท่านเคยพูดกับเลี่ยวจิ้งเหวินภรรยาของท่านว่า ผลงานและของสะสมทุกชิ้นของท่านล้วนเป็นสมบัติของประชาชน เมื่อท่านเสียชีวิตแล้ว เลี่ยวจิ้งเหวินได้ปฏิบัติตามความประสงค์ของท่าน โดยนำผลงานของท่านทั้งหมดกว่า 1,000 ชิ้น และของที่ท่านสะสมไว้มอบให้กับรัฐบาล ของสะสมของศีว์เปยเหวินนั้น ประกอบด้วยลายสือศิลป์และภาพวาดของศิลปินที่มีชื่อเสียงทุกยุคทุกสมัยนับตั้งแต่สมัย ราชวงศ์ถังจนกระทั่งถึงปัจจุบันนอกจากนี้ยังมีหนังสือ ภาพถ่าย อักษรที่ลอกจากศิลา จารึก รวมทั้งหมดเป็นของสะสมกว่า 10,000 ชิ้น
 ภาพ ‘‘ม้า’’ วิ่งอย่างอิสระที่ท่านชอบวาด
ศีว์เปยหง เป็นจิตรกรที่ผ่านเส้นทางชีวิตมาด้วยความยากลำบาก ท่านถือ กำเนิดในครอบครัวของจิตรกรยากจนที่ตำบลเล็กๆ ในอำเภออี๋ซิง มณฑลเจียงซู เมื่อครั้งยังเด็กศีว์เปยหงมีชีวิตอยู่ท่ามกลางความหิวโหยและหนาวเหน็บในปีค.ศ.1919 ศีว์เปยหงได้มีโอกาสไปศึกษาทางด้านวิจิตรศิลป์ที่ยุโรป โดยได้ไปศึกษาที่ปารีสและ เบอร์ลินเป็นเวลานาน 8 ปี ศีว์เปยหงมีทัศนะต่องานศิลปะว่า ‘‘ต้องธำรงรักษาส่วนที่ดี ของจิตรกรรมแบบโบราณเอาไว้ ปรับปรุงในส่วนที่ด้อย และรับเอาเทคนิควิธี การวาดภาพแบบตะวันตกเข้ามาผสมผสาน’’ซึ่งศีว์เปยหงเองก็ปฏิบัติตามความคิด นี้อย่างเต็มที่ ศีว์เปยหงนั้นเป็นนักวิชาการทางศิลปะที่มีความสามารถอย่างยิ่ง ท่านเคย กล่าวว่า‘‘งานให้การศึกษาวิชาการด้านศิลปะนั้นเป็นงานหลักของท่าน ส่วนการสร้าง ผลงานนั้นเป็นงานรอง” ท่านตระหนักดีว่า การฟื้นฟูศิลปะของชาตินั้นเป็นภารกิจที่ยิ่ง ใหญ่และต้องใช้ความพยายามอีกหลายชั่วคน อนุสรณ์สถานแห่งนี้ได้เก็บผลงานชั้นเยี่ยมของศีว์เปยหงไว้มากมาย มีทั้ง ภาพวาดสีน้ำมันภาพวาดแบบจีนและภาพสเก็ตซ์ ภาพวาดเหล่านี้แสดงออกถึงอารมณ์ จิตใจที่รักในปิตุภูมิ สดุดีประชาชนและจินตนาการอันกว้างไกลศีว์เปยหงมีความชำนาญ ในการวาดภาพม้า ม้าที่ท่านวาดนั้นไม่มีอานไม่มีเชือกและไม่มีคนขี่ เป็นม้าที่วิ่งอยู่ด้วย ท่วงท่าที่อิสระ ซึ่งสะท้อนให้เห็นความใฝ่ฝันถึงอิสรภาพของท่าน นอกจากนี้ท่านยังชอบ วาดไก่ตัวผู้ ไก่ของท่านไม่ใช่ไก่ชนที่พ่ายแพ้แก่คู่ต่อสู้ ไม่ใช่ไก่ตัวผู้ที่หยิ่งผยองอวดดี หากแต่เป็นไก่ตัวผู้ที่โก่งคอขันในยามอรุณรุ่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความใฝ่ฝันของท่าน ที่มีต่ออนาคตอันสดใสของปิตุภูมิ
 ภาพเหมือนรพินทรนาถ ฐากูร วาดโดยศีว์เปยหง เมื่อครั้งที่ไปเยี่ยมรพินทรนาถ ฐากูรที่อินเดีย
ภายในอาคารของอนุสรณ์สถานศีว์เปยหงยังมีภาพวาดและเอกสารต่างๆ มากมาย ซึ่งแนะนำเรื่องราวและประวัติของศีว์เปยหง ห้องทำงานและห้องวาดภาพจัดสร้างให้เหมือน เดิมทุกอย่างซึ่งได้แสดงถึงความเรียบง่ายในการดำรงชีวิตและความเอาจริงเอาจังต่อการ ค้นคว้าทางวิชาการด้านวิจิตรศิลป์ของศีว์เปยหง จิตรกรเอกของจีน
 ภาพ ‘‘ไก่ขันรับอรุณ’’
|