หากมองทิวทัศน์กรุงปักกิ่งจากเบื้องบนสู่เบื้องล่าง คุณก็จะเห็นเทือกเขาสองแห่งทอดตัวอยู่ทางตะวันตกและทางเหนือของกรุงปักกิ่ง เทือกเขาทางตะวันตกคือเทือกเขาไท่หางซาน และอีกเทือกเขาหนึ่งทางเหนือก็คือเทือกเขาเยียนซาน ส่วนทางตะวันออกของกรุงปักกิ่งติดกับทะเลโป๋ไห่ มีแม่น้ำหย่งเติ้งเหอและแม่น้ำเฉาไป๋เหอซัดสาดทำให้พื้นที่ตรงกลางเป็นที่ราบลุ่ม เมืองปักกิ่งที่อิงแอบแนบชิดภูเขาและอยู่ใกล้แม่น้ำนี้มีทิวทัศน์งดงามตระการตาราวกับภาพวาด เมื่อคุณเที่ยวโบราณสถานในตัวเมืองอย่างเช่นพระราชวังโบราณแล้ว ก็น่าจะออกมาชมสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติแถบชานเมืองปักกิ่ง คุณจะเห็นได้ทันทีว่าทิวทัศน์มีเสน่ห์น่าหลงใหลชวนให้เกิดอารมณ์สนุกสนานเพลิดเพลิน เทือกเขาเยียนซานที่อยู่ทางทิศเหนือนั้น มียอดเขาสูงต่ำสลับซับซ้อน กำแพงเมืองจีนที่อนุรักษ์ไว้ในเมืองปักกิ่ง โดยทั่วไปสร้างอยู่บนเทือกเขาเยียนซานนี้ หากยืนบนยอดเขาก็จะมองเห็นด่านและป้อมรักษาการณ์ซึ่งอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพเดิม เขตท่องเที่ยวกำแพงเมืองจีนที่มีชื่อเป็นที่รู้จักกันดีหลายแห่ง เช่น ปาต๋าหลิ่ง มู่เถียนยู่ และซือหม่าไถฯลฯ ปาต๋าหลิ่งเป็นกำแพงเมืองจีนที่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368-16454) เป็นกำแพงตอนหนึ่งที่ดีเด่น ออกจากตังเมืองปักกิ่งไปทางเหนือถึงอำเภอชานผิงไม่นานก็จะเข้าสู่ช่องเขาสายหนึ่ง ปากทางเหนือช่องเขาแห่งนี้คือสถานที่ตั้งกำแพงเมืองจีนตอนที่เรียกว่า “ปาต๋าหลิ่ง” กำแพงนี้สร้างบนยอดเขาทอดเป็นแนวยาวไปตามทิวเขาทั้งด้านซ้ายและด้านขวามีรูปทรงราวกับนกอินทรีกางปีกผงาดอยู่ บนหน้าผาสูงชันมีตัวอักษร “เทียนเสี่ยน” (ชัยภูมิที่เต็มไปด้วยอันตรายของธรรมชาติ) ข้อความนี้นอกจากแกะสลักโดยคนโบราณแล้วยังแสดงให้เห็นความรู้สึกของผู้คนสมัยนั้นด้วย กำแพงมู่เถียนยู่ตั้งอยู่ทางเหนือของอำเภอหวยโหยว ลักษณะภูมิประเทศตอนนี้พื้นที่ไม่ค่อยสูงชันฉะนั้นมีด่านหลายแห่งอนุรักษ์ไว้อย่างสมบูรณ์ที่สุด ในเขตท่องเที่ยวแห่งนี้อากาศสดชื่นมาก มีต้นไม้ใบหญ้าขึ้นงอกงามดี สวนผลไม้ก็มีมากมาย หากเดินตามช่องเขาคุณก็จะได้ยินเสียงน้ำพุไหลริน น้ำพุมีชื่อเสียงเช่น “เหลียนฮวาฉวน” (น้ำพุดอกบัว) “เจินจูฉวน” (น้ำพุไข่มุก) น้ำพุเหล่านี้มีปริมาณน้ำมาก คุณภาพน้ำก็ดีเยี่ยม กำแพงซือหม่าไถตั้งอยู่ในเขตอำเภอมี่หยุน สร้างอยู่บนสันเขามีลักษณะสูงชันมากยากที่จะปีนป่ายได้ ยามค่ำคืนภายใต้แสงจันทร์หากสามารถปีนป่ายถึงด่านซือหม่าไถได้แล้ว คุณจะรู้สึกโดดเดี่ยวมาก ส่วนเทือกเขาไท่หางซานทอดตัวยาวเหยียดผ่านด้านตะวันตกของกรุงปักกิ่ง ฉะนั้นชาวปักกิ่งจึงเรียกเทือกเขานี้ว่า “ซีซาน” (ภูเขาตะวันตก) ณ ภูเขาซีซานแห่งนี้จะมีโบราณสถานที่มีชื่อเสียงกระจัดกระจายอยู่ เช่น ซากที่อยู่อาศัยดั้งเดิมของ “มนุษย์ปักกิ่ง” หุบเขาต้นกุหลาบ ภูเขาหลิงซาน ซึ่งเป็นเขาที่สูงที่สุดของปักกิ่ง ภูเขาเมี่ยวเฟิงซาน ถ้ำหินหยุนสุ่ยต้งที่ภูเขาซ่างฟางซาน ถ้ำหินสือฮวาต้ง วัดฐานเจ๋อซื่อ วัดเจ้ไถซื่อ ฯลฯ โบราณสถานเหล่านี้ต่างก็กระจัดกระจายอยู่ที่ภูเขาซีซานทั้งสิ้นและล้วนอยู่ห่างไกลจากตัวเมือง มีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ตัวเมืองบ้างก็คือสะพานหลูโกวเฉียว ภูเขาเซียงซาน ปาต้าชู่ (วัดโบราณ 8 แห่ง) วัดต้าเจ๋ว์ซื่อ ฯลฯ ปัจจุบันที่ภูเขาซีซานได้สร้างสถานที่พักผ่อนพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในการหาความสุขสำราญหลายแห่ง จนภูเขาซีซานเป็นสถานที่พักร้อนและที่ท่องเที่ยวของผู้คน กลุ่มภูเขาเทือกเขาซีซานมีวัดวาอารามกระจัดกระจายอยู่หลายที่ เช่น ปาต้าซู่ (วัดโบราณ 8 แห่ง) ก็กระจายอยู่บนภูเขา 3 แห่ง หลูซือ ชุ่ยเวย และผิงโป วัดโบราณ 1 ใน 8 แห่งชื่อวัด “หลิงกวงซื่อ” ได้สร้างเจดีย์สูง 50 เมตร ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระเขี้ยวของพระศากยมุนีอนุรักษ์ไว้ด้วย
 ซากที่อยู่อาศัยดั้งเดิม “กู่หยาจี” เป็นที่อยู่อาศัยที่สร้างอยู่บนเขาของคนสมัยโบราณ ฝีมือก่อสร้างละเอียด แต่จนปัจจุบัน ยังไม่ทราบว่าสร้างในสมัยใด ชนกลุ่มใดสร้างขึ้น กำแพงซือหม่าไถที่สร้างอยู่บนยอดเขา
|