ร้านรองเท้าเน่ยเหลียนเซิง

       ในซอยต้าซาล่าย่านจอแจของถนนเฉียนเหมินกรุงปักกิ่ง มีร้านขายรองเท้าอยูร้านหนึ่งชื่อ ‘‘เน่ย
เหลียนเซิง’’ มีประวัติมา 136 ปีแล้ว (เมื่อพ.ศ.2532) ร้านรองเท้าแห่งนี้ผลิตรองเท้าชนิดต่างๆ ออก
มาจำหน่ายเอง มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศเพราะรองเท้าชนิดหนึ่งที่มีชื่อเรียกว่า ‘‘รองเท้าพื้นพันปี’’
มีลักษณะเฉพาะตัวและใส่สบาย

        ปีค.ศ. 1853 สมัยราชวงศ์ชิง จ้าวถิงช่างทำรองเท้ากับขุนนางชั้นผู้ใหญ่อีกคนหนึ่งร่วมทุนกัน 10,000ตำลึง ตั้งโรงงานทำรองเท้าชนิดต่างๆ ขึ้นเพื่อขายให้ผู้ดีชาววังและขุนนาง ที่ตั้งชื่อร้านว่า ‘‘เน่ยเหลียนเซิง’’ ก็เพราะมีความหมายว่า หากใครได้สวมใส่รองเท้านี้แล้ว ก็จะมีโชคได้เลื่อนยศฐาบรรดาศักดิ์ขึ้นเรื่อยๆซึ่งสอด
คล้องกับความทะเยอทะยานมักใหญ่ใฝ่สูงและหวังร่ำรวยของบรรดาผู้ดีชาววังและขุนนางในเวลานั้นส่วนจ้าว
ถิงก็ดำเนินงานกิจการได้ดี รู้จักเอาใจใส่รวบรวมข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการทำรองเท้า เป็นต้นว่า ขนาดรองเท้า
รูปแบบรองเท้า รวมทั้งความนิยมเฉพาะตัวบุคคลของบรรดาลูกค้าแล้วจัดพิมพ์หนังสือขึ้นเล่มหนึ่งในชื่อหนังสือ
ว่า ‘‘พจนานุกรมรองเท้า’’ ผู้ดีชาววังและขุนนางไม่ว่าใครที่มาซื้อหรือสั่งตัดรองเท้าที่ร้านนี้ ทางร้านจะจดขนาดและรูปแบบรองเท้าไว้อย่างละเอียด เพื่อว่าคราวหลังจะซื้อหรือสั่งตัดอีกก็ไม่ต้องมาที่ร้าน ทางร้านจะจัดทำตามขนาดที่เคยจดไว้และส่งรองเท้าไปถึงที่บ้าน ด้วยวิธีบริการลูกค้าอย่างดี คัดเลือกผ้าคุณภาพสูงและตัดเย็บอย่างประณีต จึงทำให้ร้านนี้มีชื่อเสียงเลื่องลือไป เล่ากันว่า ปูยี จักรพรรดิองค์สุดท้ายของราชวงศ์ชิงก็ยังทรงตัดรองพระบาทที่ร้าน ‘‘เน่ยเหลียนเซิง’’เพื่อทรงในราชพิธีขึ้นครองราชย์

        หลังจากการปฏิวัติซินไฮ่ได้รับชัยชนะในปีค.ศ. 1911 แล้ว ร้านเน่ยเหลียนเซิงก็ได้เปลี่ยนจากการผลิตรองเท้าขุนนางผู้ดีชาววังมาเป็นรองเท้าพื้นพันชั้น มีทั้งหัวแหลม หัวมนและอื่นๆ ซึ่งเป็นที่นิยมของพวกขุนศึก พวกผู้ดีเจ้าถิ่นและชาวบ้านทั่วไป ชุดแฟชั่นที่ฮิตกันในเวลานั้นก็คือ สวมหมวกที่ผลิตจากโรงงานหม่าจี้หยวน ใส่รองเท้าพื้นพันชั้นที่ผลิตจากร้านเน่ยเหลียนเซิง และสวมชุดต่วนจากร้านไหมแพรต่วนญุ่นฝูเสียง เวลาผ่านมา 60 กว่าปี สิ่งที่เป็นส่วนประกอบของชุดแต่งกายที่นิยมกันในเวลานั้น ก็ลดลงมาเหลือแต่เพียงรองเท้าพื้นพันชั้นอย่างเดียว ทั้งนี้เห็นจะเป็นเพราะรองเท้าชนิดนี้สามารถถ่ายเทอากาศได้ดี ที่พูดๆ กันก็ว่า ใส่รองเท้าพื้นผ้าทำให้ฝ่าเท้าสัมผัสกลิ่นอายดินได้ และรองเท้าพื้นผ้าที่ผลิตจากร้านเน่ยเหลียนเซิงจึงเหมาะที่จะใส่ในเวลาฝึกกำลังภายใน

         รองเท้าพื้นผ้าของร้านเน่ยเหลียนเซิงมีข้อดีอยู่หลายประการเช่น ใส่หน้าหนาวเท้าจะอบอุ่น ใส่หน้าร้อนก็ซับเหงื่อเย็นสบาย น้ำหนักเบา ใส่ถอดสะดวกและไม่ลื่น ขั้นตอนในการทำพื้นรองเท้าชนิดนี้คือ เอาผ้าขาวมาตัดเป็นรูปพื้นรองเท้าทากาวประกบติดกันเป็นแผ่น แผ่นละ 3 ชั้น รอบๆ ริมขอบแผ่นพื้นรองเท้าแต่ละแผ่นหุ้มด้วยริ้วผ้าขาวอีกที จากนั้นก็เอาทับซ้อนกันเป็นชั้นๆ แล้วเย็บด้วยป่านเป็นตาๆ ให้ติดกันแน่น ก็นับว่าสำเร็จเป็นพื้นรองเท้าชนิดนี้ อันที่จริงพื้นรองเท้าไม่ได้หนาถึงพันชั้น แต่เรียกให้มีความหมายว่ามากมายหลายชั้นเท่านั้นเอง ซึ่งพื้นส่วนหน้าหนา 6 แผ่น ส่วนส้นหนา 8 แผ่น 8 * 3 บวกกับผ้ารูปพื้นรองเท้าที่ซ้อนแซกไว้หว่างกลางทุกๆ 2 แผ่น รวมทั้งหมดก็หนาประมาณ 40 ชั้นเป็นอย่างมาก

         รองเท้าพื้นพันชั้นของร้านเน่ยเหลียนเซิงทุกวันนี้เป็นสินค้าที่นิยมกันมากในหมู่ชาวต่างประเทศ เพราะถือเป็นผลิตภัณฑ์พื้นเมืองภาคตะวันออกอย่างหนึ่ง ผู้อำนวยการสำนักงานประสานงานของสหรัฐอเมริกาประจำประเทศจีนคนที่ 1 กับภรรยาก็เคยมาซื้อรองเท้าที่ร้านนี้ เพื่อนำติดตัวกลับไปเป็นที่ระลึกก่อนหน้าที่จะพ้นตำแหน่งกลับสหรัฐฯ อดีตนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียกับภรรยา ก็เคยใส่รองเท้าพื้นผ้าที่ผลิตจากร้านเน่ยเหลียนเซิงไปเที่ยวกำแพงเมืองจีน ชาวจีนโพ้นทะเลจำนวนมากที่มาเมืองจีน มักจะซื้อรองเท้าผ้าจากร้านเน่ยเหลียนเซิงคนละหลายๆ คู่ เพื่อนำกลับไปฝากญาติมิตรเป็นของขวัญจากภูมิลำเนาเดิม

        เมื่อปลายทศวรรษ 1950 กวอโม่โย่ นักประพันธ์ผู้ยิ่งใหญ่ของจีนยังได้เขียนป้ายชื่อร้านเน่ยเหลียนเซิงประกอบคำกลอนชมเชยไว้ด้วย

ป้ายชื่อร้านเน่ยเหลียนเซิงซึ่งเป็นลายมือของเฝิงอี้ จอหงวนสมัยราชวงศ์ชิง
ที่แขวนอยู่บนหน้าร้าน เมื่อทศวรรษ 1960

ป้ายชื่อร้านเน่ยเหลียนเซิงซึ่งเป็นลายมือของ กวอโม่โย่ นักประพันธ์ผู้ยิ่งใหญ่ของจีน
ที่แขวนอยู่บนหน้าร้าน เมื่อต้นทศวรรษ 1980

‘‘ของโปรดผู้เฒ่า’’ ถึงแม้จะเทอะทะหน่อย แต่ก็ยังเป็นเครื่องกันหนาวที่ดีร้านเน่ยเหลียนเซิงผลิตขึ้นเพื่อบรรดาคนชราทั้งหลาย

รูปแบบรองเท้าผ้าที่ร้านเน่ยเหลียนเซิงผลิตออกมา มีการดัดแปลงใหม่อยู่เสมอ
แต่รองเท้าพื้นพันชั้นยังรักษารูปแบบเดิมไว้

โฉมหน้าใหม่ของร้านเน่ยเหลียนเซิงหลังจากซ่อมแซมในปีค.ศ. 1988

หวังเหวินหลินช่างทำรองเท้าทำงานอยู่ในร้านเน่ยเหลียนเซิงมา ตั้งแต่เมื่อค.ศ. 1943
กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญการทำรองเท้าผ้าที่สำคัญคนหนึ่งไปแล้ว

รองเท้าผ้าของร้านเน่ยเหลียนเซิงเป็นสินค้าอย่างหนึ่งที่ผู้สูงอายุชอบมาอุดหนุน