ความสำคัญของอักษรคันจิ
ความสำคัญของอักษรคันจิ
สวัสดีครับ ภาษาญี่ปุ่นมีตัวอักษร Kanji กับ Hiragana กับ Katakana ผสมกันอยู่ วันนี้ผมขออธิบายว่า Kanji มีความหมายอย่างไรในภาษาญี่ปุ่นนะครับ เพราะมีหลายๆคนบอกผมว่า ถ้าจะใช้ Hiragana หรือ Katakana อย่างเดียว ก็เขียนง่าย แต่ทำไมคนญี่ปุ่นถึงใช้ตัวอักษร Kanji ด้วยทั้งๆที่ยากมาก.......
ผมก็ยอมรับว่า Kanji ยากมาก แต่สำหรับเราชาวปลาดิบ ใช้ Kanji ด้วย ก็เลยเขียนง่ายขึ้น หรือ อ่านง่ายขึ้น และเข้าใจความหมายของประโยคได้ดีขึ้นนะครับ
สองประโยคนี้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าตัวอย่างข้างบนใช้ Hiragana อย่างเดียวแต่ตัวอย่างข้างล่างใช้ Kanji ด้วย ซึ่งออกเสียงว่า kyou wa ame ga futtanode, ichinichi-juu ie ni imashita แปลว่า วันนี้อยู่บ้านทั้งวันเพราะฝนตก
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ประโยคข้างล่างจะอ่านง่ายกว่าตัวอย่างข้างบนสำหรับคนญี่ปุ่น หากใช้ Hiragana อย่างเดียว เราจะออกเสียงตามตัวอักษรในสมองก่อนแล้วค่อยคิดความหมายของประโยค แต่ถ้าจะมี Kanji ผสมกันอยู่ เห็นแป๊บเดียว ก็แยกคำศัพท์กับคำช่วยออกจากกันได้ทันทีโดยไม่คำนึงถึงการออกเสียงในสมอง ทำให้จับความหมายได้เร็วขึ้น
ออกเสียงเฉยๆ ยังถือไม่ได้ว่า “อ่านหนังสือ” เมื่อเข้าใจความหมายแล้ว ถือได้ว่า“อ่านหนังสือ” ถ้าจะมองในแง่นี้ ประโยคที่มี Kanji ผสมกันอยู่ จะ “อ่าน” ง่ายกว่าประโยคที่มี Hiragana อย่างเดียวนะครับ
ลักษณะเด่นชัดของ Kanji ก็คือ แสดงความหมายแต่ไม่แสดงการออกเสียงโดยตรง
ส่วน Hiragana กับ Katakana เป็นตัวอักษรที่แสดงการออกเสียงโดยตรง
ผมขอยกตัวอย่างที่ง่ายๆอีกอย่างหนึ่งนะครับ
火 ตัวนี้ออกเสียงว่า ひ hi หรือ か ka 火 เฉยๆ ไม่เจาะจงการออกเสียง
แต่ตัวนี้มีความหมายว่า ไฟ
陽 ตัวนี้ออกเสียงว่า ひ hi หรือ よう you 陽 เฉยๆ ไม่เจาะจงการออกเสียงเหมือน
กันแต่ตัวนี้มีความหมายว่า ดวงอาทิตย์
強 ตัวนี้ออกเสียงว่า つよ tsuyo หรือ きょう kyou ซึ่งมีความหมายว่าแข็ง
แข็งแรง มีอำนาจ มีกำลัง (คล้ายๆกับ strong ในภาษาอังกฤษ)
ひがつよい
ประโยคข้างบนนี้มีความหมายสองอย่าง คือ ไฟแรง และ แดดจัด หากเขียนด้วย Hiragana
อย่างเดียวไม่สามารถเจาะจงความหมายได้เพราะทั้งสองเป็นไปได้ แต่หาก มี Kanji อยู่ด้วย
ก็เจาะจงความหมายให้แน่ชัดได้ คือ
火が強い แปลว่า ไฟแรง (สมมุติทำอาหารอยู่ ไฟแรงไปหน่อย ก็ 火が強い )
陽が強い แปลว่า แดดจัด (สมมุติออกไปข้างนอก ร้อนมาก ก็ 陽が強い)
ตัวอย่างข้างบนนี้เป็นตัวอย่างง่ายๆ ประโยคที่ใช้ในชีวิตจริง ย่อมซับซ้อนกว่านี้ ยิ่งซับ
ซ้อน Kanji ยิ่งมีความหมายสำคัญในการจับความหมายของประโยค เรียนภาษาญี่ปุ่นเรื่อยๆ
และได้ระดับพอสมควรแล้ว คงจะหลีกเลี่ยง Kanji ไม่ได้หากอยากพัฒนาความสามารถ
มากกว่านั้นนะครับ........
Kanji อาจเป็นตัวอักษรที่ยากมากสำหรับคนต่างชาติ(ยกเว้นคนจีน) แต่ตัวอักษรภาษา
ไทยก็ยากมากสำหรับคนต่างชาติเหมือนกัน ตอนที่เรียนภาษาไทยใหม่ๆ ในสายตาของผมตัว
อักษรภาษาไทยนั้นดูเหมือนว่าลูกเต่าตัวเล็กๆ หลายตัวรวมกันอยู่เล่นกันอย่างสนุกสนาน...
ตัวเลข Kanji
ทายถูกไหมครับสุภาษิตญี่ปุ่น
ishi - หิน
ue - ข้างบน
san-nen - 3 ปี
แปลตามตัวอักษรก็คือ อยู่บนหิน3 ปี
หากนั่งอยู่เป็นเวลานาน ทำให้หินอุ่นๆได้.........หมายถึงว่าหากอยากประสบความสำเร็จ ต้องอดทนเป็นเวลานานครับ