อุราชิทาโร่..คนหาปลา (ตอน1)

อุราชิทาโร่..คนหาปลา (ตอน1)

 

อุราชิทาโร่...คนหาปลา (ตอน1)


แปลและเรียบเรียงโดยสุขุมาลย์

     กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว ณ หมู่บ้านริมทะเล แห่งหนึ่ง มีหนุ่มน้อย ที่แสนจน แต่ยอดกตัญญูมากอยู่นายหนึ่ง มีนามว่า อุราชิมาทาโร่......กิจวัตรประจำวันของนายอุราชิมาตาโร่ ผู้นี้ คือการ ออกทะเล ไปหาปลาแลัว จะนำมาขาย เพื่อ เอาเงินมาเลี้ยงตัวเองกับเลี้ยงมารดาที่แก่มากแล้ว ทำอะไรและหากินเลี้ยงตัวเองไม่ได้ ความเป็นคนที่รักแม่และยอดกตัญญูของเขานั้น ขึ้นชื่อลือชาจนเป็นที่รู้จักกันทั่วไปทั้งตำบลเลยทีเดียว....

     แล้ววันหนึ่ง อุราชิมาทาโร่ ก็ออกไปหาปลาตามหน้าที่ปกติอย่างที่เขาเคยทำมาเป็นประจำ แต่วันนี้ ตั้งแต่ เช้าจนเย็น อุราชิมาทาโร่ ตกปลาไม่ได้เลยสักตัวเดียว....เขาจึงตัดสินใจเก็บเบ็ดกลับ ในใจก็คิดเสียใจว่า ทำไมวันนี้ถึงโชคไม่ดีเอาเสียเลย....เมื่อเขากลับถึงฝั่งและเอาเรือเข้าเทียบท่าแล้ว อุราชิมาทาโร่ ก็เดินอย่าง หมดแรงเรื่อยเปลื่อยมาตามขอบ ชายหาดเพื่อจะกลับบ้าน แล้วเขาก็แว่วได้ยินเสียงพวกเด็กๆ กำลังส่งเสียง เล่นอะไรบางอย่างอยู่กันเป็นกลุ่ม....เขาจึงนึกสงสัยและอยากรู้ขึ้นมาว่าเล่นอะไรกันอยู่จึงหัวเราะกันเสียงดัง อย่างนั้น...

      เมื่อ อุราชิมาทาโร่ เดินเข้าไปแอบมองใกล้ๆ ก็เห็นพวกเด็ก ๆ กำลังช่วยกันเอาไม้ตีและแกล้งลูก ตะพาบน้ำตัวหนึ่งอยู่ .. ลูกตะพาบน้ำตัวนั้นนอนหงายท้องน้ำตาเห็นร่วงเป็นทางอย่างน่าสงสารมาก อุราชิมาทาโร่ จึงรีบขอร้องพวกเด็ก ๆเหล่านั้นว่า ".. โอ้..โอ้..โอ้....ทำไมพวกเจ้าถึงแกล้งเต่า อย่างนั้น เล่า...มันเจ็บและร้องน่าสงสารเห็นไหม ?.. อย่าแกล้งสัตว์ที่ไม่มีทางสู้อย่างนั้นสิ...เร็วปล่อยมัน ไปเถอะ.. ข้าขอร้อง" พวกเด็กเหล่านั้นจึงหันมาพูดกับเขาว่า " อ้อ...ถ้าลุงสงสารมันมากละก็..ก็จ่ายเงินซื้อมัน จากพวกเราสิ..จริงไหมพวกเรา...จะมาของ่าย ๆได้ยังไงฮึ "

       พวกเด็กๆ พูดแล้วก็ทำเป็นไม่สนใจอะไรจากเขาอีกเลย ..และยังคงเอาไม้ตีและแกล้งอยู่อย่าง นั้น ความที่สงสารเจ้าตะพาบน้ำตัวที่เคราะห์ร้ายนั้นอย่างจับใจ..."..เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน..ข้าไม่อยาก จะใช้พลังข่มขู่เด็กหรอก...แล้วข้าก็แก่กว่าพวกเจ้าไม่กี่ปีเอง..หนอยมาเรียกข้าว่าลุงเดี๋ยวก็เขกกระ บานให้หรอก..เอ้า..ข้ารำคาญเอาเงินนี่ที่เจ้าต้องการไปแล้วปล่อยตะพาบน้ำนี้ ให้ข้า ก็แล้วกัน.." อุ ราชิมาตาโร่ พูดขึ้นพวกเด็กๆ เห็น อุราชิมาทาโร่ ยื่น เงินให้ ก็พากันดีใจ รีบฉวยเงินจากมือเขา แล้ววิ่งหนี.. จากไป....

        อุราชิมาทาโร่ รีบเข้าไปอุ้มตะพาบน้ำตัวที่เคราะห์ร้ายนั้นแล้วช่วยปัดทรายออกจากตัวมันให้ แล้วเขาก็เห็นว่ามันมีสีที่สวยงามผิดจากตะพาบน้ำธรรมดาทั่วไปเสียด้วย...มันสีสวยงามมาก ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยเห็นอย่างนี้มาก่อนเลยจริง ๆ เขาพามันเดินไปที่ชายทะเลแล้วก่อนที่เขา จะปล่อยมันไปก็บอกกับมันว่า ".. เอ้อ..เกือบไปแล้ว เห็นไหมล่ะ...เอ้า...รีบๆกลับไปซะ...แล้วอย่า ให้โดนจับมาแกล้งเข้าให้อีกก็แล้วกันล่ะ..เจ้าตะพาบที่น่าสงสาร ".. ลูกตะพาบน้ำตัวนั้นก่อนที่มัน จะจมหายไปในทะเลนั้น มันทำท่าเหมือนเหลียวมาผงกหัวให้อุราชิมาทาโร่ อย่างสำนึกบุญคุณ แล้ว จึงค่อยๆ ว่ายหายลงไปในทะเล ในที่สุด..

        วันรุ่งขึ้น อุราชิมาทาโร่ก็ออกไปหาปลาตามปกติเหมือนเดิม ในขณะที่เขากำลังทำการ ตกปลาอยู่นั้น ตะพาบน้ำตัวใหญ่ตัวหนึ่งก็ว่ายมาที่ใกล้ ๆเรือของเขา แล้วมันอยู่ ๆก็พูดเป็นภาษาคนและร้อง เรียกทักเขาออกมาว่า"..อุราชิมาทาโร่ ซัง..... อุราชิมาทาโร่ ซัง.." เมื่ออุราชิมาทาโร่ได้ยินใครเรียกชื่อและเมื่อ เขาหันกลับไปมองก็ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว ที่เห็นตะพาบน้ำพูดได้อย่างนั้น " ทาโร่ซัง...ขอขอบ คุณที่ช่วยเหลือลูกตะพาบน้ำไว้เมื่อวาน เราขอขอบคุณ ที่ช่วยเหลือ ... และอยากจะ ตอบแทน บุญคุณ ของท่าน ด้วยการพาท่านไปเที่ยวที่ "เรียวกูโจ" ตำหนัก ไต้น้ำ...มาเลย..มาขึ้นหลังของเรา สิ..เราจะพาท่าน ไปที่ เรียวกูโจ เดี๋ยวนี้เลย....

         อุราชิมาทาโร่ เหมือนโดนมนต์สะกดเดินขึ้นไปนั่งบนหลังอย่างว่าง่าย...แล้วจากนี้การเดินทางไปสู่เรียว กูโจก็จะเริ่มขึ้นแล้วหละ...เจ้าตะพาบน้ำค่อยๆว่ายและพุ่งตัวลงไปสู่ใต้น้ำทีละนิด ๆ ค่อยๆ ดำดิ่งจมลงไป เรื่อยๆ แต่ให้แปลกประหลาดมหัศจรรย์เป็นที่สุด เพราะไม่ว่าจะจมดิ่งลึกลงไปสู่ไต้น้ำแค่ไหน....อุราชิมา ทาโร่ ก็ไม่รู้สึกอะไรไม่ทรมานและหายใจไม่ออกอย่างใดเลย..เป็นเหมือนอยู่บนบกอย่างไรอย่างนั้นไม่มีผิด ... มีฝูงปลามากมายว่ายอยู่ รอบ ๆ ตัวอุราชิมาทาโร่ เหมือนกับจะมาแสดงความยินดี และต้อนรับกับการมา ของเขาครั้งนี้ ใต้พื้นทะเลนั้นสวยงามเหลือเกิน แปลกประหลาด จนประทับใจ อุราชิมาทาโร่มาก...และ แล้ว เมื่อเดินทางผ่าน พ้น" ทะเลประการัง " ออกมาได้สักครู่...

         อุราชิมาทาโร่ ก็ต้องเบิกตาจนโต กับสิ่งที่ปรากฏอยู่ข้างหน้านั้น เพราะมีปราสาทที่ทำขึ้นด้วยทองทั้งหลัง ส่อง แสงเป็นประกายวูบวาบ มีแสงระยิบระยับ ตั้งตระหง่านอยู่ ใช่แล้ว...ที่นี่คือ " เรียวกูโจ " อย่างแน่นอน..... เมื่อตะพาบน้ำว่ายพาอุราชิมาทาโร่ เข้าไปไกล้อีกหน่อย..ที่ตรงหน้าปราสาทก็แลเห็น "โอโตฮิเมะ" ยืนรอ ต้อนรับเขาอยู่กับพวกข้าทาษและบริวารมากมาย "..ยินดีต้อนรับสู่ เรียวกูโจ ของเรา ขอขอบคุณท่าน อุรา ชิมาทาโร่อย่างมาก ที่ให้การช่วยเหลือเมื่อวันวาน.." อุราชิมาตาโร่ ตะลึงและทึ่งกับความสวยงาม ไม่ว่า จะเป็น ของ"โอโตฮิเมะ" หรือของ" เรียวกูโจ" จนพูดอะไรไม่ออก ได้แต่มองไปรอบๆตัว ด้วยความตื่นเต้นตื่นตา ตื่นใจอย่างที่สุด

          แล้ว อุราชิมาทาโร่ ก็ถูกเชื้อเชิญให้เข้ามาในปราสาท เมื่อเข้ามาข้างในเป็นห้องโถงใหญ่แล้วก็แลเห็นมี อาหาร มากมายถูกวางเตรียมไว้ต้อนรับเขา ตั้งแต่ เกิดมาชายหนุ่มยังไม่เคย เห็นอาหาร อะไรน่ากิน และ มากมาย ขนาดนี้มาก่อนเลยจริง ๆ "....เชิญ..เชิญเลย ท่าน อุราชิมาทาโร่ เชิญรับประทานอาหาร ที่พวกเรา ได้เตรียมไว้ ต้อนรับ ... ไม่ต้องเกรงใจ.." โอโตฮิเมะ กล่าวเชื้อเชิญอีก....แต่อุราชิมาทาโร่นั้นถึงแม้จะตื่น เต้นแค่ไหน ? แต่เขานั้นเป็นลูกที่รักแม่มาก เขากลับนึกถึงแม่ขึ้นมาและบอกกับโอโตฮิเมะว่า " แต่ว่าเรา เป็นห่วงแม่ แม่คงรอเรากลับบ้าน " โอโตฮิเมะจึงบอกกับเขาว่า " ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นหรอก เพราะ ระหว่างที่ท่านอยู่ที่นี่เราจะให้พวกบริวารแปลงร่างไปรับใช้ให้แทนท่านเองทุกอย่าง เราสัญญา "

          เมื่อพูดบอกกับอุราชิมาทาโร่ให้หายเป็นห่วงแล้ว...โอโตฮิเมะก็ตรบมือขึ้นเรียกให้นางรำ ออกมาทำการ ฟ้อนรำต้อนรับทันที..อุราชิมาทาโร่ ดื่มกิน และมองนางรำ ที่ออกมา ร่ายรำอย่างอ่อนช้อยสวยงามนั้น ด้วย ความเพลิดเพลินอย่างมาก เขามีความรู้สึกเหมือนดังว่าได้นั่งอยู่ที่บนสวรรค์อย่างไรอย่างนั้นก็ไม่ปาน แล้วบิดาของโอโตฮิเมะคือ " เรียวโอ " ซึ่งเป็นกษัตริย์ของ " เรียวกูโจ " นั้นยังบอกกับเขาว่า " ขอให้ท่าน ทำตัวตามสบาย..คิดว่าที่นี่ก็เหมือนบ้านของท่านแล้วกัน..เรายินดีต้อนรับ " ... แล้วจากนี้ไปการใช้ชีวิต ในเรียวกูโจของอุราชิมาทาโร่ก็จะเริ่มขึ้นแล้วหละ.....

         แล้ววันแล้ววันเล่าก็ผ่านไปด้วยความสนุกสนาน ตื่นเต้น...เหมือนอยู่ในความฝัน...ทุกวัน โอโตฮิเมะ จะนำอุราชิมาทาโร่ เข้าเที่ยวชมภายในของปราสาท แล้วนางยังคอยสอนถึงชื่อของ พวกปลาและหอยที่อุราชิมาทาโร่เพิ่งจะเคยเห็นที่นี่เป็นครั้งแรกและในชีวิตให้ เพื่อเป็นการ เพิ่มความรู้ให้กับเขาอีกด้วย...วันหนึ่งอุราชิมาทาโร่ ได้เดินไปพบห้องที่น่าพิศวงห้องหนึ่งเข้า...

 แหม!! กำลังสนุกและลุ้นกันใช่มั๊ยหละครับ ใครอยากรู้ว่าห้องที่น่าพิศวงนั้นคือห้องอะไร ติดตามต่ออาทิตย์หน้านะครับ

 

Date

15 ตุลาคม 2564

Tags

ญี่ปู๊น ญี่ปุ่น