ตราบาปของแผ่นดินจีน
“ ขันที ” ตราบาปของแผ่นดินจีน |
โดย ชัชวนันท์ สันธิเดช |
ผู้ที่นิยมอ่านเรื่องราวของประวัติศาสตร์จีน หรือนิยายจีนต่างๆนานา คงไม่มีใครไม่รู้จักมนุษย์ประเภทหนึ่งที่เรียกว่า ในพระราชวังนั้น มีงานหลายอย่างที่สตรีเพศทำไม่ได้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีผู้ชายกลุ่มหนึ่งเข้าไปทำงาน ทว่าชายที่เข้าไปรับใช้ในวังกลุ่มนี้นั้น ต้องโดนตัดอวัยวะเพศออกไปส่วนหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องชู้สาวขึ้นในเขตพระราชฐานชั้นใน คนกลุ่มนี้เองที่มีชื่อเรียกว่า “ ขันที ” ขันทีในราชสำนักจีนตั้งแต่อดีตมานั้นมีอิทธิพลมากมาย ขันทีชั้นในบางคนมีหน้าที่จัดคิวให้กับพระสนมที่มีอยู่นับพันๆคนเพื่อเข้าไปถวายร่างกายให้กับพระจักรพรรดิในยามค่ำคืน นอกจากนี้ ยังรับหน้าที่เป็นผู้ประสิทธิประสาทวิชากามกิจให้กับองค์ฮ่องเต้ตั้งแต่ครั้งยังทรงพระเยาว์ ส่วนที่มีวิชาความรู้หน่อยก็รับหน้าที่เป็น “ พระอาจารย์ ” สอนอ่านเขียนให้ด้วย นอกจากเรื่องทางโลกแล้ว ขันทียังมีหน้าที่เป็นคณะที่ปรึกษาให้กับพระจักรพรรดิ์ในการปกครองบ้านเมือง ฉะนั้น ขันทีในระดับสูงๆจึงทรงอิทธิพลอย่างมหาศาล เนื่องจากสามารถโน้มนำการบริหารประเทศชาติได้ หรือพูดง่ายๆว่าสามารถชี้เป็นชี้ตายความเป็นไปของชาติบ้านเมืองได้เลยทีเดียว เรื่องราวเกี่ยวกับขันทีที่เราได้ยินกัน เก้าในสิบมักเป็นเรื่องในทางชั่วร้ายเลวทราม เช่น ฉ้อราษฏร์บังหลวง มอมเมาพระจักรพรรดิ เพ็ดทูลฮ่องเต้ให้เห็นผิดเป็นชอบ ฯลฯ ขุนนางคนใดแม้ทำงานเป็นที่ถูกอกถูกใจประชาราษฎร์ หากไม่ส่งอามิสสินบนให้กลุ่มขันทีชั่ว ไม่คำรบนบนอบ แข็งขืน หรือแม้กล้าต่อปากต่อคำ คนตอนใจทรามเหล่านี้จะเป่าพระกรรณฮ่องเต้ให้ทรงถอดออกจากตำแหน่งทันที มิหนำซ้ำบางคนโดนกลั่นแกล้งหนักข้อถึงกับโดนโทษ “ ยึดทรัพย์ ” หรือ “ ประหารชีวิต ” เลยก็มี ช่วงปลายราชวงศ์ฮั่น พระเจ้าเลนเต้ จักรพรรดิผู้อ่อนแอ ลุ่มหลงมัวเมาในขันทีชั่วทั้ง 10 ขุนนางทำดีได้ชั่ว-ทำชั่วได้ดี จนบ้านเมืองเป็นทุรยศ ประชาชนอดอยาก เดือดร้อนทั่วทุกหย่อมหญ้า ในที่สุดเมื่อราษฎรถูกกดขี่ข่มเหงจนถึงขีดสุด จึงลุกขึ้นมาต่อสู้ในนามของ “ โจรโพกผ้าเหลือง ” เพื่อต่อสู้กับชนชั้นปกครองที่ชั่วร้ายเลวทราม เมื่อขุนศึกตามหัวเมืองต่างๆเห็นบ้านเมืองวุ่นวาย จึงรุกเข้ามาในพระนคร แม้จะอ้างเจตนาบริสุทธิ์ แต่ในที่สุดก็จบลงด้วยการแก่งแย่งชิงอำนาจกันจนประเทศลุกเป็นไฟ แผ่นดินที่เคยสงบแตกออกเป็นเสี่ยง ก่อนจะกลายเป็นสามส่วน ซึ่งเป็นที่มาของยุคสามก๊ก และต้องใช้เวลาถึง 60 ปีกว่าตระกูลซื่อหม่า (สุมา) จะรวมแผ่นดินเข้าเป็นปึกแผ่นได้อีกครั้งในนามของ “ ราชวงศ์จิ้น ” ส่วน “ ราชวงศ์ฮั่น ” ที่เคยยิ่งใหญ่เกรียงไกร ครองแผ่นดินจีนมากว่า 400 ปีนั้น มีอันต้องสิ้นสุดลง และไม่อาจฟื้นคืนกลับมาได้อีกเลย
|